เกี่ยวกับเรา: สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดราชบุรี
ประวัติความเป็นมา
ศูนย์การศึกษาประชาชนจังหวัดราชบุรีอนุสนธิ์แต่พ.ศ.2515 คณะผ้าป่าสามัคคีวัดประยูรวงศาวาส นำโดยท่านเจ้าคุณเทพประสิทธิคุณ เจ้าคณะภาค 15 ได้มาทอดผ้าป่าที่วัดดอนกระเบื้อง มาเห็นเด็กนักเรียนเป็นจำนวนมาก ต้องไปศึกษาต่อชั้นมัธยมยังอำเภอโพธารามและอำเภอบ้านโป่ง ระยะทางไกลไปมาลำบากมาก จึงคิดที่จะจัดหาที่ดินในย่านกลางของตำบลนี้เพื่อสร้างเป็นโรงเรียนมัธยมขึ้นให้นักเรียนใกล้เคียงได้เรียนใกล้บ้าน ดังนั้นท่านผู้มีจิตต์ศรัทธาทั้งหลายได้ร่วมกับทางวัดประยูรวงศาวาส จัดหาเงินซื้อที่ดินได้หนึ่งแปลงประมาณ 20 ไร่ โดยมอบให้ทางวัดประยูรวงศาวาสดำเนินงานต่อไป (คือส่วนหนึ่งของที่ดินสร้างศูนย์ฯแห่งนี้)
แต่ยังไม่ได้ดำเนินงาน ต่อมาในปี พ.ศ.2518 กระทรวงศึกษาธิการได้มีโครงการตั้งโรงเรียนมัธยมประจำตำบลขึ้น ทางคณะผู้ดำเนินงานจึงได้ติดต่อกับกระทรวงศึกษาธิการขอตั้งโรงเรียนมัธยมประจำตำบล แต่ที่ดินเดิมซึ่งมีอยู่นั้นไม่พอกับกฏที่กระทรวงวางไว้ ทางคณะผู้ดำเนินงานจึงได้ร่วมกับทางวัดประยูรวงศาวาสพร้อมทั้งชาวตำบลดอนกระเบื้องและตำบลใกล้เคียงร่วมกันบริจาคเงินซื้อที่ดินเพิ่มอีก8 แปลงในเนื้อที่ 13 ไร่ 3 งาน 36 ตารางวามอบให้กระทรวงศึกษาธิการ พร้อมที่ดินของวัดประยูรวงศาวาสอี 19 ไร่ 3 งาน 46 ตารางวา รวมเป็นเนื้อที่ 33 ไร่ 2 งาน 82 ตารางวา
ต่อมาทางกระทรวงศึกษาธิการ สมัย ดร.นิพนธ์ ศดีธร คำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงศึกษาธิการ ได้มาสำรวจที่ดินด้วยกันเอง เห็นว่าที่ดินตรงนี้เหมาะสมที่จะตั้งเป็นศูนย์การศึกษาประชาชนจังหวัดราชบุรี เพราะการคมนาคมสะดวกพร้อมทั้งจะอำนวยประโยชน์ได้มากกว่าสร้างเป็นโรงเรียนมัธยม
จึงมีมติอนุมัติให้ใช้ที่ดินแห่งนี้สร้างเป็นศูนย์การศึกษาประชาชนจังหวัดราชบุรี โดยมีคุณหญิง บุญเลื่อน เครือตราชู อธิบดีกรมสามัญศึกษาได้เป็นประธานประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารศูนย์การศึกษาประชาชนจังหวัดราชบุรี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2521
แต่ยังไม่ได้ดำเนินงาน ต่อมาในปี พ.ศ.2518 กระทรวงศึกษาธิการได้มีโครงการตั้งโรงเรียนมัธยมประจำตำบลขึ้น ทางคณะผู้ดำเนินงานจึงได้ติดต่อกับกระทรวงศึกษาธิการขอตั้งโรงเรียนมัธยมประจำตำบล แต่ที่ดินเดิมซึ่งมีอยู่นั้นไม่พอกับกฏที่กระทรวงวางไว้ ทางคณะผู้ดำเนินงานจึงได้ร่วมกับทางวัดประยูรวงศาวาสพร้อมทั้งชาวตำบลดอนกระเบื้องและตำบลใกล้เคียงร่วมกันบริจาคเงินซื้อที่ดินเพิ่มอีก8 แปลงในเนื้อที่ 13 ไร่ 3 งาน 36 ตารางวามอบให้กระทรวงศึกษาธิการ พร้อมที่ดินของวัดประยูรวงศาวาสอี 19 ไร่ 3 งาน 46 ตารางวา รวมเป็นเนื้อที่ 33 ไร่ 2 งาน 82 ตารางวา
ต่อมาทางกระทรวงศึกษาธิการ สมัย ดร.นิพนธ์ ศดีธร คำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงศึกษาธิการ ได้มาสำรวจที่ดินด้วยกันเอง เห็นว่าที่ดินตรงนี้เหมาะสมที่จะตั้งเป็นศูนย์การศึกษาประชาชนจังหวัดราชบุรี เพราะการคมนาคมสะดวกพร้อมทั้งจะอำนวยประโยชน์ได้มากกว่าสร้างเป็นโรงเรียนมัธยม
จึงมีมติอนุมัติให้ใช้ที่ดินแห่งนี้สร้างเป็นศูนย์การศึกษาประชาชนจังหวัดราชบุรี โดยมีคุณหญิง บุญเลื่อน เครือตราชู อธิบดีกรมสามัญศึกษาได้เป็นประธานประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารศูนย์การศึกษาประชาชนจังหวัดราชบุรี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2521
วิสัยทัศน์ (Vision)
"ประชาชนได้รับการส่งเสริมการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ พร้อมเข้าสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต"
ภารกิจ (Mission)
1. จัดส่งเสริมและสนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิตการเรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเองและการเรียนรู้เพื่อคุณวุฒิตามระดับที่มีคุณภาพเพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้ และยกระดับการศึกษาของประชาชนให้สามารถปรับตัวในการดํารงชีวิตได้อย่างเหมาะสมและมีสมรรถนะพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่
2. ผลิตและพัฒนาหลักสูตรโปรแกรมการเรียนรู้ สื่อและนวัตกรรมการเรียนรู้ วิธีการจัดกระบวนการเรียนรู้ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ที่มีคุณภาพและมาตรฐาน สอดคล้องกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้และสภาวการณ์การพัฒนาของประเทศ
3. ส่งเสริมการนําเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมที่ทันสมัยมาใช้ในการจัดและส่งเสริมการเรียนรู้ให้ประชาชนสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่และทุกเวลา
4. สร้างและประสานความร่วมมือเชิงรุกกับภาคีเครือข่าย ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้มีสิ่งอํานวยความสะดวกและแหล่งเรียนรู้รูปแบบต่างๆเพื่อให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงการเรียนรู้ได้ทุกรูปแบบทุกที่และทุกเวลา
5. พัฒนาระบบบริหารจัดการภายในองค์กรให้มีความทันสมัย โดยยึดหลักธรรมาภิบาลเพื่อการส่งเสริมการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ
6. พัฒนาและยกระดับศักยภาพบุคลากรทุกประเภททุกระดับเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานและการส่งเสริมการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ
2. ผลิตและพัฒนาหลักสูตรโปรแกรมการเรียนรู้ สื่อและนวัตกรรมการเรียนรู้ วิธีการจัดกระบวนการเรียนรู้ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ที่มีคุณภาพและมาตรฐาน สอดคล้องกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้และสภาวการณ์การพัฒนาของประเทศ
3. ส่งเสริมการนําเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมที่ทันสมัยมาใช้ในการจัดและส่งเสริมการเรียนรู้ให้ประชาชนสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่และทุกเวลา
4. สร้างและประสานความร่วมมือเชิงรุกกับภาคีเครือข่าย ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้มีสิ่งอํานวยความสะดวกและแหล่งเรียนรู้รูปแบบต่างๆเพื่อให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงการเรียนรู้ได้ทุกรูปแบบทุกที่และทุกเวลา
5. พัฒนาระบบบริหารจัดการภายในองค์กรให้มีความทันสมัย โดยยึดหลักธรรมาภิบาลเพื่อการส่งเสริมการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ
6. พัฒนาและยกระดับศักยภาพบุคลากรทุกประเภททุกระดับเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานและการส่งเสริมการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ